Wednesday, March 10, 2010

plasil inj stat พร้อมกับ buscopan inj stat ควรฉีดยาใดให้คนไข้ก่อนดี

เนื่องจากยาทั้งสองตัวออกฤทธิ์ตรงกันข้ามกัน กล่าวคือ

Plasil มีกลไกการออกฤทธิ์โดยการเพิ่มการตอบสนองของเยื่อบริเวณ Upper GI Tract ต่อ Acetylcholin ทำให้เพิ่มการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินทางอาหาร โดยเฉพาะส่วนบน และเร่งให้เกิด gastric emptying ให้เร็วขึ้น

ขณะที่ Buscopan ซึ่งมีตัวยาสำคัญ คือ hyoscine-N-butylbromide มีฤทธิ์ระงับการหดเกร็ง (antispasmodic) ใช้สำหรับบรรเทาอาการปวดเสียดท้องอันเนื่องจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณทางเดินอาหารหรือทางเดินปัสสาวะ
ยา Buscopan ออกฤทธิ์โดยการคลายกล้ามเนื้อเรียบบริเวณผนังกระเพาะอาหาร ลำไส้ ท่อน้ำดี (รวมเรียกว่าท่อทางเดินอาหาร) อวัยวะสืบพันธุ์และทางเดินปัสสาวะ (genitourinary tract) การหดเกร็งและคลายตัวของกล้ามเนื้อเรียบในบริเวณนี้เป็นการตอบสนองต่อสารเคมีในร่างกายชนิดหนึ่งที่เรียกว่า neurotransmitter (สารสื่อประสาท) และ neurotransmitter ที่เกี่ยวข้องกับการหดเกร็งของกล้ามเนื้อในบริเวณนี้มีชื่อว่า Acetylcholine ซึ่งเป็นการหดรัดตัวที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของร่างกาย Hyoscine ออกฤทธิ์โดยการปิดกั้น receptor ที่อยู่บริเวณเซลล์กล้ามเนื้อเรียบไม่ให้ Acetylcholine ไปจับและออกฤทธิ์ได้ (เรียก receptors ชนิดนี้ว่า muscarinic หรือ cholinergic receptors) ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อเรียบบริเวณทางเดินอาหารและทางเดินปัสสาวะคลายตัวและลดความเจ็บปวดจากการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อได้

หากแพทย์มี order ให้มีการบริหารยาทั้งสองในเวลาพร้อมกัน เช่น สั่ง stat เหมือนกันทั้งสองตัวและสั่งในเวลาเดียวกัน จำเป็นที่พยาบาลต้องเว้นช่วงการให้ยาทั้งสองตัวดังกล่าวให้ห่างกัน โดยปกติควรให้ plasil inj ก่อน แล้วให้ Buscopan inj ตามหลัง

การจะเว้นกี่ชั่วโมง ควรดูเภสัชจลนศาสตร์ของยาตัวแรก นั่นคือ plasil เป็นหลัก

ยา Plasil มีระยะเวลาเริ่มออกฤทธิ์ เมื่อให้โดยการฉีด iv 1-3 นาที
ระยะเวลาในการออกฤทธิ์ตั้งแต่ 1-2 ชั่วโมง โดยไม่ขึ้นกับ route การให้
ยานี้มีค่าครึ่งชีวิตในการกำจัด 4-7 ชั่วโมง (อาจขึ้นกับขนาดยาที่ได้รับ)

ดังนั้นควรฉีด Buscopan ภายหลังฉีด plasil ไปแล้วประมาณ 1-2 Hr

จาก www.pharmyaring.com

วันนี้ มาเปิดเน๊ตค้นข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยาฉีด plasil ซึ่งตรงกับประสบการณ์ที่เจอในคนไข้ เลยขอรวบรวมไว้ที่นี่
มีคำถามว่า ยา Plasil injection ถ้าต้องการฉีดแบบ iv ต้องผสมหรือเจือจางก่อนหรือไม่ เพราะเคยมีเหตุการณ์ฉีดยาแล้วผู้ป่วยรู้สึกแข็งเกร็ง คำตอบ คือ ยา Plasil หรือ Metoclopramide สามารถบริหารได้ทั้งแบบรับประทาน im,direct iv, หรือ infusion อาการแข็งเกร็งภายหลังฉีดเป็นอาการไม่พึงประสงค์สำคัญของยานี้ (เรียกว่า Extrapyramidal Reaction) อาการนี้จะเกิดบ่อยขึ้นหากผู้ป่วยเป็นเด็กหรือวัยรุ่น (วัยรุ่นในที่นี้คือ young adult หรือวัยประมาณ อายุ 15-19 ปี) (children and young adult) และเมื่อให้แบบ iv ในขนาดยาที่สูง อาการจะเกิด 24-48 ชั่วโมงหลังการให้ยา หากทำการหยุดยา อาการจะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าจะให้อาการหายเร็วขึ้น ควรให้ diazepam หรือ diphenhydramine 

ข้อแนะนำสำหรับการฉีดยา Plasil:-
1.การฉีดแบบ im หรือ direct iv (ฉีดเข้า iv โดยตรง) ไม่ต้องทำการเจือจางก่อนฉีด
2.การฉีดแบบ direct iv ยาที่มีขนาดความแรง 10 mg จะต้องบริหารช้า ๆ มากกว่า 1-2 นาที การฉีดยาในอัตราที่เร็วเกินไป อาจทำให้เกิดอาการ anxiety หงุดหงิด กระสับกระส่าย และอาจมีอาการง่วงซึมตามมา 3.การฉีดแบบ IV infusion ต้องทำการเจือจางด้วยสารน้ำดังต่อไปนี้ในปริมาตร 50 ml ได้แก่ 5% Dextrose, 0.9%NSS, 0.45%NSS, Ringer’s หรือ Lactated Ringer’s และเนื่องจากยาจะคงตัวดีกว่าเมื่อผสมกับ 0.9%NSS ดังนั้น คำแนะนำจากบริษัทระบุว่า 0.9% NSS เป็นสารละลายที่ดีที่สุดสำหรับยานี้ การให้ยาแบบ iv infusion จะต้องให้ยาช้า ๆ ใช้เวลาอย่างน้อย 15 นาที เมื่อผสมแล้ว ยาจะคงตัวที่ T ห้อง 24 ชั่วโมง

หมายเหตุ :

ตำรา/เอกสารอ้างอิง :
1AHFS Drug Information, 1999 : 2575-2580
2Trssel, LA. Handbook on Injectable Drugs, 9th edition